Episodes
![EP 7 การรับใช้ [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/option118.jpg)
Friday Nov 17, 2017
![EP.6 การถวายยยยย [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/option116.jpg)
Friday Nov 03, 2017
EP.6 การถวายยยยย [Starter คริสต์]
Friday Nov 03, 2017
Friday Nov 03, 2017
อ่านสคริปต์ EP6 การถวายยยยยย ได้ในลิงค์นี้เลยจ้า https://www.choojaiproject.org/2017/11/give-offering/
![EP.5 อธิษฐาน...ไปทำไม? [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/option114.jpg)
Friday Oct 27, 2017
EP.5 อธิษฐาน...ไปทำไม? [Starter คริสต์]
Friday Oct 27, 2017
Friday Oct 27, 2017
อ่านสคริปต์ของ EP.5 ได้ตามลิงค์นี้นะจ๊ะ https://www.choojaiproject.org/2017/10/why-pray/
![EP.4 อ่านพระคัมภีร์ดีอย่างไร [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/option112_1_.jpg)
Friday Oct 20, 2017
EP.4 อ่านพระคัมภีร์ดีอย่างไร [Starter คริสต์]
Friday Oct 20, 2017
Friday Oct 20, 2017
อ่านสคริปต์ของ EP.4 ได้ตามลิงค์นี้นะจ๊ะ https://www.choojaiproject.org/2017/10/why-pray/
![EP.3 การนมัสการคือ? - [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/Ep3-Podbean.jpg)
Friday Oct 06, 2017
EP.3 การนมัสการคือ? - [Starter คริสต์]
Friday Oct 06, 2017
Friday Oct 06, 2017
อ่านสคริปต์เพิ่มเติมได้ใน https://www.choojaiproject.org/2017/10/starter-christ-ep3-what-is-the-meaning-of-christian-worship/
![EP.2 ไปโบสถ์ 1st Time - [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/Ep2-Podbean.jpg)
Friday Sep 29, 2017
![EP.1 เชื่อแค่ไหนกว่าฉันจะใช่...คริสเตียน - [Starter คริสต์]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/Ep1-Podbean.jpg)
Friday Sep 22, 2017
EP.1 เชื่อแค่ไหนกว่าฉันจะใช่...คริสเตียน - [Starter คริสต์]
Friday Sep 22, 2017
Friday Sep 22, 2017
Starter คริสต์ ตามติดชีวิตผู้เชื่อใหม่
ดำเนินรายการโดย พี่โจโจ และ อิ่มเอมอปป้า
- - - - - - - - - - - -
Highlight
- พระเจ้าทรงรักมนุษย์มาก พระองค์ทรงอยากให้มนุษย์ทุกคนมีความสุขแท้ แต่ที่เขากลับไม่มีความสุขแท้ เพราะว่าเขาทุกคนเป็นคนบาป และเขายังไม่ละทิ้งความบาป เขาจึงต้องรับผลของความบาปนั้นด้วย ทำให้พระเจ้าจึงต้องส่งพระเยซูคริสต์ผู้เป็นพระบุตรของพระองค์ลงมาในโลก เพื่อที่รับโทษแห่งความบาปแทนมนุษย์ทุกคน
- การให้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าปราศจากการรับ มนุษย์ต้องตัดสินใจรับพระเยซูคริสต์เข้ามาประทับในจิตใจ เขาจึงจะได้รับความรอดนั้น
- ถึงแม้เราจะเป็นคนบาปคนเดียวในโลกใบนี้ พระเยซูคริสต์ก็ยังจะทรงเสด็จมาตายเพื่อมาไถ่บาปของเราอยู่ดี
___________________________
การรับเชื่อคืออะไร ? [นาทีที่ 2.24]
- คือการอธิษฐานต้อนรับ (ตอบรับ) พระเยซูคริสต์ด้วยความเชื่อ เพื่อให้พระองค์เข้ามาในจิตใจ ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอด และจอมเจ้านายในชีวิต
ทำไมเราต้องรับเชื่อ ? [นาทีที่ 2.52]
- เพราะเราต่างจมอยู่ในมหาสมุทรแห่งความบาป และไม่อาจหลุดพ้นออกไปได้ด้วยตัวของเราเอง
- แม้เราจะรู้วิธีการทำดีละเว้นความชั่ว เราอาจมีกำลัง ความรู้ และความสามารถ แต่เราไม่มีศักยภาพพอที่จะช่วยให้ตัวเองพ้นจากความบาปได้อยู่ดี ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาพระเยซูคริสต์เท่านั้น เพราะพระองค์เป็นผู้เดียวที่จะช่วยมนุษย์อย่างเราให้รอดจากโทษทัณฑ์ของความบาปทั้งหลายได้
พระสัญญาของพระเจ้าบอกว่าผู้ที่รับเชื่อแล้วจะได้รับ… [นาทีที่ 6.23]
- ได้รับการอภัยโทษบาป เราไม่จำเป็นต้องรับโทษความบาปของเราทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพราะพระเยซูทรงรับไว้หมดแล้ว “ในพระบุตรนั้นเราจึงได้รับการไถ่ ซึ่งเป็นการทรงโปรดยกบาปทั้งหลายของเรา” โคโลสี 1:14
- ได้รับฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า ได้สิทธิพิเศษเข้ามาเป็นลูกในครอบครัวของพระเจ้า เมื่อเป็นลูกก็จะมีสิทธิ์ต่างๆ ที่ลูกจะได้รับจากพ่อ“แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็ทรงประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า” ยอห์น 1:12
- ได้รับชีวิตนิรันดร์ คือชีวิตที่ไม่ต้องตกนรก ไม่ต้องรับโทษจากความบาปที่ตัวเองเคยทำไว้ในโลกนี้
“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าผู้ใดฟังคำของเราและวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว” ยอห์น 5:24 - ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มาจากพระเจ้า พระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตภายในของเรา”เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” 2 โครินธ์ 5:17 (อ่านข้อพระคัมภีร์เพิ่มเติม ยอห์น.10:10; 1 เธสะโลนิกา.5:18)
เพราะความเชื่อไม่ใช่ความรู้สึก การรับเชื่อจึงเป็นเรื่องของความจริง [นาทีที่ 10.23]
- อย่าพึ่งพาเอาสถานการณ์ภายนอก หรือความรู้สึกของตัวเราเองมาเป็นปัจจัยในการรับเชื่อ แต่ให้พึ่งพาในความจริงที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพระวจนะของพระองค์
รับเชื่อกี่ครั้งถึงจะพอ? [นาทีที่ 11.10]
“ถ้าเรา…รับเชื่อไปแล้ว (ตอนยังไม่เข้าใจอะไรเลย) ต้องรับอีกไหม?”
การรับเชื่อสำหรับคริสเตียนคือการเข้าสู่ครอบครัวของพระเจ้า อย่างในพระสัญญาที่ได้บอกไว้ว่าเราเป็นลูกของพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องรับเชื่อซ้ำซ้อน
“ถ้าเรา…รับเชื่อแล้วไปทำบาป เรายังจะรอดไหม?”
“รอด” เพราะการกระทำที่ผิดพลั้งบาปของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรอด ดังนั้น พระเจ้าในสถานะพ่อของเราจะให้อภัยเราแน่นอน เพียงแต่เราต้องกลับใจใหม่ การกลับใจใหม่ก็คือ ความเสียใจกับความบาปที่เคยทำไป อธิษฐานสารภาพกับพระเจ้า และตั้งใจที่จะไม่กลับไปทำความบาปนั้นอีก แต่หากเราเสียใจอย่างเดียว โดยไม่นำไปสู่ความตั้งใจที่จะไม่ทำบาปนั้นอีกก็ยังไม่ถือเป็นการกลับใจใหม่
4 อย่างที่ต้องมั่นใจเมื่อรับเชื่อ [นาทีที่ 16.05]
- 1. พระเจ้า: เชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงมนุษย์นั้นทรงดำรงอยู่ และพระเจ้าทรงรักมนุษย์
- 2. ปัญหา: ปัญหาที่มนุษย์ไม่มีความสุขที่แท้จริงก็เพราะมนุษย์ทำบาป ความบาปที่ว่ามี 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ…
– บาปละเมิด : รู้ว่าอะไรไม่ดี แต่ก็ยังทำ
– บาปละเลย : รู้ว่าอะไรดี แต่ก็ไม่ทำ
- 3. ทางออก: พระเจ้าทรงส่งพระเยซูคริสต์มาเพื่อเป็นทางออกเดียวให้กับมนุษย์ที่จะรอดพ้นจากโทษทัณฑ์ของความบาป และรอดจากบึงไฟนรก เพราะพระองค์ทรงมารับความผิดบาปแทนเราบนไม้กางเขน
- 4. ทางเลือก: มนุษย์มีสิทธิ์ที่จะเลือกเชื่อในพระเยซูคริสต์ หรือไม่เชื่อก็ได้ เพราะพระเจ้าให้อิสระ จึงทรงสร้างพวกเขาให้เป็นบุคคลที่สามารถตัดสินใจได้เอง และถ้าพวกเขาเลือกที่จะเชื่อพระเยซูคริสต์พวกเขาจะต้องตัดสินใจทำตามทั้ง 4 ข้อนี้ (ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้)
- ยอมรับว่าตนเองเป็นคนบาปและช่วยให้ตัวเองรอดจากโทษของความบาปไม่ได้
- ตั้งใจละทิ้งความบาปและหันกลับมาหาพระเจ้า
- ยอมรับพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า พระองค์มาตายบนไม้กางเขน และพระองค์ทรงฟื้นขึ้นจากความตายเพื่อไถ่บาปแทนเรา
- อธิษฐานรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในจิตใจ ในฐานะจอมเจ้านาย และพระผู้ช่วยให้รอด
“ถึงแม้เราจะเป็นคนบาปคนเดียวในโลกใบนี้
พระเยซูคริสต์ก็ยังจะทรงเสด็จมาตายเพื่อมาไถ่บาปของเราอยู่ดี”
อ่านสคริปต์เพิ่มเติมได้ใน https://www.choojaiproject.org/2017/09/starter-christ-ep-1-how-to-be-sure-of-my-salvation/
![EP.8 - จะก้าวผ่านความรู้สึกอ่อนแอของตัวเองได้อย่างไร? [รู้เขารู้เรา]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/TH_EP8.jpg)
Thursday Sep 14, 2017
EP.8 - จะก้าวผ่านความรู้สึกอ่อนแอของตัวเองได้อย่างไร? [รู้เขารู้เรา]
Thursday Sep 14, 2017
Thursday Sep 14, 2017
ความอ่อนแอทางใจคืออะไร?
“ความอ่อนแอทางใจคือ...การที่เราไม่มีกำลัง ไม่เข้มแข็ง และไม่แข็งแรง
อาจทำให้ไม่มีพลังใจในการใช้ชีวิตเมื่อได้เจอหรือกระทบกับบางเรื่อง” - [นาทีที่ 1.26]
ลักษณะของความอ่อนแอแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
- ความอ่อนไหว - [นาทีที่ 3.00]
ลักษณะ: เสียใจง่าย เศร้าง่าย และอ่อนไหวง่ายเวลาถูกวิพากษ์วิจารณ์ พยายามเอาใจคนอื่นจนละเลยความต้องการของตัวเอง ไม่กล้าปฏิเสธ รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่เชื่อมโยงกับใคร ปม้มีผู้คนรอบกายแต่กลับรู้สึกว่าไม่มีเพื่อนเลย
- ความกลัว - [นาทีที่ 4.00]
ลักษณะ: ลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ จนไม่กล้าทำอะไรเลย กลัวทำผิดพลาดกลัวทำผิดพลาดจนอาจกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เฉไฉ เพราะไม่กล้าเผชิญหรือจัดการกับปัญหาจึงเลือกวิธีหนี
- แสดงออกด้วยการใช้อำนาจ - [นาทีที่ 4.40]
ลักษณะ: เป็นผลจากความอ่อนแอภายในที่ถูกแสดงออกมาในทางตรงกันข้าม คือภายในอ่อนแอแต่แสดงออกมาอย่างรุนแรง มักทำให้เกิดพฤติกรรม หาข้อแก้ตัว อ้างไปเรื่อย ไม่ยอมรับความผิด อวดตัว ยกตนเองข่มผู้อื่น วางอำนาจ จอมสั่งการ จู้จี้ และพยายามควบคุมทุกอย่าง ชอบตัดสิน
- สนใจภาพลักษณ์ - [นาทีที่5.55]
ลักษณะ: เนื่องจากภายในรู้สึกอ่อนแอ แต่สิ่งที่แสดงออกมาคือใส่ใจสิ่งที่อยู่ภายนอกอย่างเช่น บุคลิกภาพลักษณ์ หรือ สิ่งของจนถึงขั้นวัตถุนิยม แคร์คนอื่นมากจนเกินไป เช็คเรตติ้ง หลงตัวเอง ชื่นชมตัวเองเพื่อให้รู้สึกดี เพราะข้างในจริงๆ รับความบกพร่องของตัวเองไม่ได้
"ความอ่อนแอนั้นเป็นพิษ... ทำให้รู้สึกด้อยค่า ไม่เหมาะสม ไม่สมควรที่จะได้รับความรักและคิดว่าตัวเองไร้ความสามารถ" - [นาทีที่ 16.27]
___________________________
แยกแยะความอ่อนแอก่อน… เพราะพระเจ้าช่วยได้
[นาทีที่ 18.35]
ถามตัวเองก่อนนะว่าอะไรคือสิ่งที่เรากำลังต่อสู้หรือสิ่งที่เราอ่อนแอนี้เกิดจากอะไรระหว่าง
ความอ่อนแอที่เกิดจากความบาปหรือความอ่อนแอที่เกิดจากบาดแผลในอดีต?
ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนแอจากบาปหรือความอ่อนแอที่เกิดจากบาดแผลในอดีต พระเจ้าจะช่วยเหลือเราด้วยการ…
- ช่วยให้ละทิ้งบาปต่างๆ : เพราะความบาปเป็นเรื่องที่คอนโทรลได้ และแม้ว่าบางคนจะใช้คำว่าธรรมชาติบาปมาเป็นข้ออ้างทำให้ตัวเองไม่สามารถเอาชนะหรือละทิ้งบาปนั้นไปได้ แต่ทางหนึ่งที่เราจะสามารถชนะบาปด้วยการละทิ้งได้แน่คืออาศัยฤทธิอำนาจของพระเจ้า
- พระองค์ทรงสร้างใหม่: บาดแผลและความเจ็บปวดทั้งหลายในอดีตจะถูกรักษา และใจของเราจะถูกสร้างขึ้นใหม่ได้โดยพระเจ้า
วิธีเอาชนะความอ่อนแอ (3 ยอม)
[นาทีที่ 22.44]
- ยอมรับความอ่อนแอ : ยอมรับกับตัวเองเสียก่อนว่าเราเป็นคนอ่อนแอเหมือนที่ มัทธิว 9:12 บอกไว้ว่า “คนเจ็บต้องการหมอ แต่คนสบายไม่ต้องการ”
- ยอมรับความจริงของพระเจ้า : กลับไปเปิดพระคัมภีร์ดูนะว่าพระเจ้าบอกอะไร ในความอ่อนแอของเรานั้น พระเจ้าพูดว่าอะไร?
- ยอมรับการเปลี่ยนแปลง : เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์และยอมรับด้วยใจ ไม่ใช่แค่จากความคิด พระคำของพระเจ้าจะส่งผลให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไป
ระยะทางที่ไกลที่สุด บางครั้งคือจากสมองถึงหัวใจ
สุดท้าย… ความอ่อนแอไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป
[นาทีที่ 35.08]
ความอ่อนแอเป็นเครื่องมือที่ทำให้เราได้พึ่งพิงในพระเจ้า และเราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เพราะในสิ่งที่เราทำไม่ได้นั้น เราจะได้่เห็นว่าพระเจ้าเป็นนายเหนือความอ่อนแอทั้งหลาย
แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “การที่มีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของเราก็มีฤทธิขึ้นเต็มขณะที่นั่น” เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงภูมิใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า เพื่อฤทธิเดชของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า
(2โครินธ์12:9)
___________________________
ระหว่างทางของชัยชนะในความอ่อนแอ คือเราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อน
และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างปกติสุข
ขอขอบคุณที่ปรึกษาด้านเนื้อหา :
อ. วีรนุช วงค์คงเดช อาจารย์ประจำหมวดวิชาการให้คำปรึกษา โรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ สวนพลู (TBTS)
![EP.7 - 3 คำถามที่จะช่วยตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ในชีวิต [รู้เขารู้เรา]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/TH_EP7.jpg)
Wednesday Sep 06, 2017
EP.7 - 3 คำถามที่จะช่วยตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ในชีวิต [รู้เขารู้เรา]
Wednesday Sep 06, 2017
Wednesday Sep 06, 2017
- พูดคุยกันแบบหมดเปลือกวิธีการเลือกและตัดสินใจในภาวะยากลำบากของชีวิตว่าต้องทำอย่างไร? จากประสบการณ์ตรงในการตัดสินใจ และการยกตัวอย่างของแต่ละคำถาม
___________________________
1. ถ้าเราเลือกได้ (มีอิสระ) เรายังจะทำสิ่งที่ทำในทุกวันนี้อยู่หรือไม่ ?
[นาทีที่ 5.05]
ถ้าไม่มีหนี้มีสิน ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อมาเลี้ยงดูใคร ถ้ามีอิสระในการเลือกรายังอยากจะเรียนคณะสาขานี้ไหม? หรือถ้าไม่มีใครบังคับ เราจะเลือกทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ไหม? การที่เราสำรวจตัวเองด้วยคำถามนี้เพื่อเราจะได้เห็นชัดเจนขึ้นว่าถ้าเราตัดสิ่งที่กดดันชีวิตเหล่านี้ออกไป เราอยากจะทำอะไรจริงๆ
2. ถ้าเวลาคือสิ่งมีค่า เราอยากลงทุนเวลา กับอะไร?
[นาทีที่ 10.35]
เราทุกคนมีธนาคารเวลา ที่ในแต่ละวันเราจะได้รับเวลาปริมาณเท่ากัน และเมื่อสิ้นสุกวันเงินในบัญชีจะถูกลบทิ้งทั้งหมด และได้รับเงินก้อนใหม่วันถัดไป คือ เวลาที่เราได้รับในแต่ละวันเราไม่สามารถสะสมไว้ใช้ในวันถัดไปได้
คลิปตัวอย่างที่พูดถึงใน PODCAST ธนาคารเวลา
ที่นี่ >>> https://www.youtube.com/watch?v=ceB5BMUeyyU
ทุกวินาทีมีคุณค่า...
ภาษาอังกฤษ เรียก “เวลาปัจจุบัน” ว่า Present และเป็นคำเดียวกับคำว่า “ของขวัญ”
ดังนั้นเวลาก็เหมือนของขวัญที่เราได้รับมาจากพระเจ้า
“เวลาของเรามีจำกัด อยู่ที่ว่าเราจะลงทุนเวลาที่เรามีไปกับอะไร”
3. แล้วพระเจ้าว่ายังไง ?
[นาทีที่ 18.10]
คำถามสุดท้ายเป็นที่สำคัญที่สุดในชีวิตคริสเตียน เป็นที่เป็นบทสรุปของทุกการตัดสินใจ เราจะรู้ว่าพระเจ้ามีน้ำพระทัยยังไง ให้เราอธิษฐานแสวงหาน้ำพระทัยเป็นการส่วนตัว และสามารถฟังเพิ่มเติมหากยังไม่เคยฟังวิธีการเช็คว่าพระเจ้าเรียกเราแบบไหน ใน EP. 4 ที่ผ่านมาอ่านได้ทางลิงค์นี้ >>> EP. 4 “จะรู้ได้อย่างไร ว่าพระเจ้าเรียก”
หากชาวชูใจฟังแล้วก็ยังยังไม่มั่นใจอยู่ดี…
“ขอให้รู้ว่า พระเจ้าเองเป็นผู้สร้างเราและมอบเวลา 86400 วินาทีต่อวันแก่เรา และเป็นพระเจ้าที่ใส่ความชอบ และความถนัดด้านต่างๆ กับเรา พระองค์เป็นพระเจ้าผู้นำชีวิตของเรา และไว้ใจได้มากที่สุด”
_______________________________
ลองใช้เวลาทบทวนกับคำถามทั้งสามข้อนี้ดู
- ถ้ามีอิสระในการเลือกเราจะทำสิ่งนี้ไหม?
- เราอยากลงทุนเวลากับสิ่งนี้ไหม?
- และถ้าเราเลือกสิ่งนี้พระเจ้าจะว่าอย่างไร?
_______________________________
ขอขอบคุณที่ปรึกษาด้านเนื้อหา :
อ. เจนจิต เลิศมาลีวงศ์ อาจารย์ประจำหมวดวิชาพระคัมภีร์ใหม่ โรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ สวนพลู (TBTS)
![EP.6 - จะรู้จักตัวเองมากขึ้นได้อย่างไร? [รู้เขารู้เรา]](https://pbcdn1.podbean.com/imglogo/ep-logo/pbblog1993116/TH_EP6.jpg)
Wednesday Aug 30, 2017
EP.6 - จะรู้จักตัวเองมากขึ้นได้อย่างไร? [รู้เขารู้เรา]
Wednesday Aug 30, 2017
Wednesday Aug 30, 2017
Highlight
- การรู้จักตัวเองมาขึ้นมีหลากหลายวิธี วันนี้เราจะมารู้จักตัวเองมากขึ้นผ่านการวัดโดยใช้ MBTI
- เช็คให้รู้! เราอยู่ในกลุ่มไหนของ MBTI ทั้ง 4 กลุ่มและเราจะพัฒนาให้เติบโตมากขึ้นได้อย่างไร?
___________________________
หลายคนมีใจอยากรับใช้แต่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับงานรับใช้แบบไหน หรือกำลังค้นหาว่างานไหนที่ใช่ตัวเรา อะไรคือสิ่งที่เราทำแล้วจะเกิดผลลัพธ์ที่ดี และทำไมบ้างครั้งเราถึงอัดในการทำบางสิ่งทั้งๆ ที่เราคิดว่าเราน่าจะชอบ การที่เรารู้จักตัวเองก่อนจะช่วยทำให้เราเลือกได้ดียิ่งขึ้น
กระบวนการรู้จักตัวเองของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน รวมๆ แล้วจะมาจากประสบการณ์ สถานการณ์ต่างๆ คนรอบตัว ที่สำคัญเราสามารถรู้จักตัวเองมากขึ้นผ่านการอ่านพระคัมภีร์ด้วย ...นอกจากนั้นพระเจ้าก็ให้สติปัญญาแก่มนุษย์ในการที่จะรู้จักตัวเองมาขึ้นผ่านวิธีการต่างๆ และแม้แต่บรรดาแบบวัดบุคลิกภาพที่มีมากมาย ก็ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นได้เช่นกัน
มาเข้าใจบุคลิกภาพและความคิดตัวเองผ่าน MBTI
MBTI เป็นแบบวัดบุคลิกภาพ หนึ่งในหลายๆแบบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
อาจจำแนกลักษณะวิธีคิดของผู้คนเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
- 1. กลุ่มช้าง (S+F) Sensing + Feeling
- 2. กลุ่มหมาป่า (S+T) Sensing + Thinking
- 3. กลุ่มแมวน้ำ (N+F) Intuition + Feeling
- 4. กลุ่มนกฮูก (N+T) Intuition + Thinking
ทั้ง 4 กลุ่มก็จะมีจุดแข็ง จุดบอด และแนวทางการพัฒนาที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจตัวเองมากขึ้นผ่าน การใช้เกณฑ์ MBTI แบบสั้นๆ ง่ายๆ สไตล์ชูใจ เพื่อนำมาประยุกต์ในการเลือกว่า งานรับใช้แบบไหนเหมาะกับตัวเรา
สามารถอ่านเพิ่มเติม ได้ทางเว็บไซด์ >>>
https://www.choojaiproject.org/2017/08/get-to-know-ep6-how-to-get-to-know-myself-with-mbti/
___________________________
พูดคุยโดย :
วอร์ วรรัก และ เจด เจษฎา
นักศึกษาพระคริสต์ธรรมด้านการให้คำปรึกษา
ที่ปรึกษาด้านเนื้อหา :
อ. เจนจิต เลิศมาลีวงศ์ อาจารย์ประจำหมวดวิชาพระคัมภีร์ใหม่ โรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ สวนพลู (TBTS)
.